สไปเดอร์แมนโนเวย์โฮมภาคไทย

สไปเดอร์แมนโนเวย์โฮมภาคไทย ในด้านของการดำเนินเรื่อง

สไปเดอร์แมนโนเวย์โฮมภาคไทย ในภาคนี้ก็ยังคงจะมีรสชาติ กลิ่นอาย และธีมของหนังจากภาคก่อน ๆ อยู่นะขอรับ โดยยิ่งไปกว่านั้นอย่าง สไปเดอร์แมนโนเวย์โฮมภาคไทย มากองก์แรก ซึ่งผู้กำกับอย่าง ‘หน้าจอน วัตต์ส’ (Jon Watts) ที่รับเหมากำกับแฟรนไชส์หนังชุดนี้มาจนกลับกลายเป็นไตรภาคแล้ว ก็ยังคงจะคุมสีสันความเป็นหนังวัยรุ่นที่แอบแฝงสถานะการณ์แบบฉบับของวัยว้าวุ่นวาย สิบห้าหยก ๆ สิบหกหย่อน ๆ มุกฮา ๆ วีรกรรมห่าม ๆ และหนังสไตล์ Coming Of Age

ซึ่งพอมาถึงภาคนี้ ควรต้องชื่นชมขั้นตอนการเล่าเรื่องเป็นสิ่งแรกเลยครับ เหตุเพราะว่าว่าตัวหนังสามารถไต่ดีกรีการเล่าจากเล็กไปหาใหญ่ และใหญ่ชั้นจักรวาลได้โดยละเอียดถี่ถ้วนมาก นั่นอาจจะส่งผลให้การเดินเรื่องในองก์แรกช้าอยู่บ้าง โดยมีฉากแอ็กชันคอยกระตุ้นกราฟอยู่เนือง ๆ แต่ตัวบทก็ถือว่าทำได้หลักแหลมจริงๆหลักแหลมและไหลลื่นไม่สะดุดที่ไหนให้กวนใจเลย

Spider-Man : No Way Homeรวมทั้งการที่ตัวบทเริ่มตอนนี้ตั้งแต่ต้นจะกระชับพื้น สไปเดอร์แมนโนเวย์โฮมภาคไทย ที่โดยไม่ไปเล่าถึงผู้บ่งบอกและภารกิหน้าจอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเป็นฮีโรของปีเตอร์มากนักเหมือนอย่างในภาคที่แล้ว ส่งผลให้ตัวหนังจะเริ่มตอนนี้ตั้งแต่ต้นจุดโฟกัสกำหนดภารกิจของปีเตอร์ เอ็มเจ เน็ด หมอแปลก เหล่าวายร้ายทั้ง 5 และป้าเมย์เท่านั้น อีกจุดที่ถือได้ว่าฉลาดมากมากคือ ต่อให้ตัวหนังในครึ่งข้างข้างหลังจะเริ่มตอนนี้ตั้งแต่ต้นบิดไปเป็นหนังแอ็กชันแบบเต็มสูบ แต่หนังก็ยังรักษาแกนการเล่าเรื่องแบบ Coming Of Age ที่กล้าหนักแน่นเอาไว้ได้อยู่ นั่นก็คือเรื่องของการอุตสาหะจะลบจดจำของมนุษย์นั่นเอง เหตุเพราะว่านอกเหนือจากนี้ปีเตอร์จึงควรรับผลกระทบจาก

ข้อผิดพลาดจากการร่ายมนต์แล้ว เขายังต้องมีให้ได้ที่จึงต้องควรรับผลกระทบใหญ่

เพื่อเพื่อการบังอาจจะจะไปแทรกแทรกชั้นเพื่อขึ้นหน้ามัลติเวิร์ส และตอนท้ายก็ลากเส้นมาขมวดทั้งหมดปีเตอร์เองก็ควรต้องยอมรับผลพวงที่มีเหตุมาจากการอุตสาหะลบความจำนั้นด้วยComing Of Age ในคเหมือนกับนี้จึงไม่น่าจะใช่แค่การต่อสู้กับวายร้ายเพียงเท่านั้น แต่ยังจำเป็นมากที่จำเป็นที่จะต้องยอมรับจังหวะทางที่เขาเองได้เลือกเฟ้นไว้ด้วย ซึ่งตรงนี้ต้องมีให้ได้ควรต้องขอชื่นชม

ว่าสามารถอาจจะแก่นแกนนี้เอาไว้ได้อย่างครบถ้วน ปูเรื่องและตามมาเก็บกลับได้อย่างสะเทือนใจเรียกน้ำตามาก ๆ แถมยังเป็นการทิ้งท้ายได้อย่างน่าสนใจและน่าคิดต่อจากนี้ไปด้วยว่า จากนี้ ชีวิตของปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ที่คัดเลือกเส้นทางนี้และยอมรับผลของมันแต่โดยดี จะยังอาจจะดำเนินชีวิตในฐานะปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ และในฐานะสไปเดอร์-แมนต่อไปได้เช่นไร ภายใต้บทสรุปชีวิตโคตรจะสะเทือนใจขนาดนั้น